8/ นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล

เรื่องอัศจรรย์ของหลวงปู่พรหมา ที่ได้แสดงให้หลวงปู่คำพันธ์เห็นว่า การเดินทางไปบิณฑบาตที่อำเภอธาตุพนม แล้วกลับมาทันฉันเช้าที่วัดธาตุมหาชัยนั้นสามารถทำได้

โดยข้อเท็จจริงแล้วไม่มีทางทำได้

ถึงจะอาศัยรถยนต์เป็นพาหนะทั้งขาไปและขากลับก็ทำไม่ได้

ให้เหยียบคันเร่งจนมิดตลอดเส้นทางก็ทำไม่ได้

ระหว่างวัดธาตุมหาชัย อำเภอปลาปาก กับอำเภอธาตุพนมมีระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตร

อย่าว่าแต่สมัยปี 2515 ซึ่งเส้นทางทุรกันดารอย่างยิ่ง ต่อให้สมัยปัจจุบันนี้ถนนรนแค่มดีแล้วก็ยังไม่มีทางทำได้

หลวงปู่พรหมาได้กล่าวกับหลวงปู่คำพันธ์เพียงประโยคเดียวสั้น ๆ

นี่คือวิชาที่มีอยู่ในตำราที่อยากจะสอนให้

ประโยคนี้เป็นเหตุให้หลวงปู่คำพันธ์เดินอกจากวัดธาตุมหาชัยตามหลวงปู่พรหมาไปยังวัดบ้านม่วงโดยไม่ลังเลสงสัยอีกต่อไป

ในปีนั้น (2515) หลวงปู่พรหมาได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านม่วง ตำบลโคกสูง อำเภอปลาปาก ซึ่งอยู่ห่างจากวัดธาตุมหาชัยประมาณ 10 กิโลเมตร หลวงปู่คำพันธ์ได้ติดตามมาฝากตัวเป็นศิษย์รับการถ่ายทอดวิชา แต่มิได้อยู่จำพรรษาด้วย หากแต่ใช้วิธีเทียวไปเทียวมาแทบทุกวันระหว่างวัดธาตุมหาชัยกับวัดบ้านม่วงมิได้ขาดตลอดพรรษา ซึ่งท่านก็ได้รับเมตตาจากหลวงปู่พรหมาสั่งสอนแนะนำวิชาให้โดยไม่ปิดบังอำพราง

หลวงปู่คำพันธ์สำนึกในเมตตาของหลวงปู่พรหมาและรู้คุณของครูบาอาจารย์อยู่เต็มหัวใจ ท่านได้ขอร้องพ่อใหญ่จำปา กอมสิน ชาวบ้านม่วงที่เป็นเพื่อนรักของท่านให้คอยอุปัฏฐากหลวงปู่พรหมาตลอดเวลาที่อยู่วัดบ้านม่วง พ่อใหญ่จำปาก็รับทำธุระนี้ด้วยความยินดี

ครั้นออกพรรษาแล้ว หลวงปู่พรหมาได้เดินทางออกจากวัดบ้านม่วงไปโดยไร้ร่องรอยและหายสาปสูญไปตั้งแต่บัดนั้น

แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน