สติ สัมปชัญญะ

สติกับสัมปชัญญะนี้สำคัญมาก
พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่าเป็นธรรมที่คุ้มครองโลก
หมายความว่าคุ้มครองตนนั่นแหละ
ต่างคนต่างมีไว้คุ้มครองตน
ทุกคนก็ปลอดภัย
โลกปลอดภัย

นี่ว่ากันแบบหยาบๆนะครับ
เอาเป็นที่เข้าใจง่ายๆตามประสาชาวบ้านแบบเราท่าน

ถ้ายอมรับว่าศีลเป็นปฐมกาลแห่งกำเนิดสติสัมปชัญญะแล้ว

เมื่อมีความพร้อม มีโอกาส เราสมควรจะให้ความสนใจเรื่องศีลกันไหม

หากว่าศีลมีความสมบูรณ์ไม่บกพร่องเสียแล้ว สมาธิก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ผมมีความเห็นอยู่ข้อหนึ่ง ที่อาจไม่เหมือนใคร

คือเมื่อนึกไปถึงพระอาจารย์จี๊กงที่วันๆเอาแต่กินเหล้าทั้งวันนั้น ผมเห็นว่านั่นเป็นการฝึกฝนดำรงตนอยู่ในสติสัมปชัญญะอีกวิธีหนึ่ง

คนอื่นๆอาจจะเห็นเป็นเรื่องอภินิหารว่าทำไมกินเหล้าขนาดนั้นไม่เมา

ถ้าเรามองประเด็นอิทธิฤทธิปาฏิหารย์ พระอาจารย์จี๊กงจะต้องมีมนต์เสกเหล้าให้กลายเป็นน้ำ

ทำให้กินเหล้าไม่เมา

หากเป็นเช่นนี้ พระอาจารย์จี๊กงต้องเสกเหล้ากินกันทั้งวัน วันละหลายๆครั้ง

เหล้ากลายเป็นน้ำแล้วจะเมาได้ยังไง

จริงๆแล้วเสกเหล้าให้กลายเป็นน้ำ ไม่ทำให้รวยได้
เสกน้ำให้กลายเป็นเหล้าสิ รวยแน่

ผมว่าพระอาจารย์จี๊กงกินเหล้าขนาดนั้นยังไงท่านก็ต้องเมา

คนเราลงมีอันได้เมาเหล้าแล้ว สติสตังขาดกระจุยป่นปี้ทั้งนั้น

แต่ท่านอาจารย์กลับไม่
ยังคงมีสติสัมปชัญญะแจ่มใสเหมือนเสกเหล้ากินแทนน้ำจริงๆ

เรื่องขาดสตินี้ อย่าว่าแต่เมา ทุกขเวทนาอื่นๆทั้งหลายก็ทำให้ขาดสติได้

ความไข้เจ็บ ความปวดทรมาน สารพัดสารเพล้วนทำให้ขาดสติได้เช่นกัน

ผมใช้คำว่าขาดสตินะครับ
ใช้สำหรับคนที่ฝึกหัดตนจนมีสติแล้ว แต่อาจจะยังไม่แก่กล้ามั่นคงพอที่จะเอาตัวรอดได้ในภาวะเช่นนั้น

พอเจออาการเมา เจออาการเจ็บปวดรวดร้าว เจอทุกข์สารพัดทุกข์ หรือแม้แต่เจอความน่ากลัว น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึง

สติขาดผึงได้ทันที

แต่ถ้ามีสมาธิแล้ว สมาธิประคองสติได้ สติก็ประคองสมาธิได้

เรื่องสมาธิกับสติ เรื่องสติกับสมาธิ ต่างเกื้อกูลกันอย่างไร เอาไว้ก่อน ไว้คุยในหมวดสมาธิที่จะว่าต่อไปทีหลัง

f_11732549_1

ในกรณีของพระอาจารย์จี๊กงนั้น ผมเห็นว่าท่านฝึกสติสัมปชัญญะกับอาการเมา

ท่านทำเช่นนั้นทุกวันจนกระทั่งอาการเมาไม่สามารถล่วงเกินสติสัมปชัญญะของท่านได้

ต่อไปเมื่อเจออาการอื่นใดที่นอกเหนือไปจากอาการเมาก็ไม่สำคัญแล้วครับ

สติสัมปชัญญะของท่านอาจารย์จี๊กงย่อมแก่กล้าจนแม้วินาทีที่ท่านจะละขันธ์สิ้นลม

หลวงพ่อชาเองเคยพูดว่า
กินเหล้า! ไม่เท่าไหร่ ถ้ากินให้มันเป็นยา กินแล้วไม่ให้ขาดสติ 
แต่เรื่องฆ่าสัตว์นั้นห้ามขาด อย่าทำ ไม่ให้ทำ

050302-2-1

ผมจึงเห็นได้ที
เลยมีสติสตึอวดดี กล่าวอสัจจะธรรมหลังแก้วเหล้ากะเขามั่ง

“เหล้ามา ปัญญาเกิด”

อันนี้ช่วยโยนลงถังขยะด้วยครับ
อย่าเอาไปใช้

อย่าลืมนะครับ
สติสัมปชัญญะนี้สำคัญมาก
ต้องให้มันมีกับตัว ให้มันเติบโตแกร่งกล้าขึ้นเรื่อยๆ

สติสัมปชัญญะนี้สำคัญมาก
ต้องให้มันมีกับตัว ให้มันเติบโตแกร่งกล้าขึ้นเรื่อยๆ

สติจะสร้างสมาธิแบบอัตโนมัติให้เอง
เหมือนศีลสร้างสติโดยอัตโนมัติเช่นกัน

สติสัมปชัญญะเป็นเพียงชื่อเป็นเพียงนาม ที่สมมุติขึ้นมาเพื่อใช้เรียกอาการที่เป็นสติสัมปชัญญะ ให้รู้จักเข้าใจตรงกันในแง่ของการสื่อสาร

ดังที่หลวงพ่อชาท่านเปรียบให้ฟังว่า
อาการที่เรียกว่าร้อนนั้น
ต่างก็เรียกกันไปต่างๆนาๆ
คนไทยเรียกร้อน ลาวเรียกฮ้อน ฝรั่งเรียกhot
เรียกกันไปคนละภาษา
แต่พอถูกน้ำร้อนลวกมือเข้าให้แล้ว
มันเป็นภาษาเดียวกัน

paragraph__23_100

 

thaihealth_c_ahimrtuxz456

ครูบาอาจารย์อย่างเช่นหลวงพ่อชายังย้ำยังบอกไว้เสมอว่า
สติสัมปชัญญะสมาธิมันเป็นอันเดียวกัน
เหมือนด้ามมีด ใบมีด คมมีดและสันมีด มันอยู่รวมกันเป็นมีดเล่มเดียวกัน

สติสัมปชัญญะจึงสำคัญมาก
วิธีเดียวที่จะทำให้สติสัมปชัญญะเกิดและเติบโตในตัวของเรา คือต้องกำหนดข้อบังคับให้เราถือปฏิบัติ
ข้อบังคับนี้เรียกว่าศีล

เราท่านยังเป็นฆราวาสยังต้องหาอยู่หากินเลี้ยงปากเลี้ยงครอบครัวก็เอาแค่ศีล5
สติสัมปชัญญะก็จะมีขึ้นได้ในระดับหนึ่ง

ศีลเปรียบเป็นด้ามมีด ถ้ามีดไม่มีด้ามให้จับ เราจะใช้มีดนั้นทำประโยชน์ได้ง่ายๆอย่างไร
กิเลส ตัณหา อุปทาน มันต้องใช้ยิ่งกว่ามีดธรรมดาทั่วไปจึงจะสามารถฟาดฟันบั่นให้ขาด
ต้องมีดวิเศษที่ชื่อไตรสิกขา
ซึ่งช่างตีมีดเล่มนี้ได้ตีทิ้งเอาเอาไว้ให้เราได้หาทางใช้ ชื่อว่าสิทธัตถะ
มีดแห่งศีล สมาธิ และ ปัญญา

 

Jun 25 2009,

แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน