ฝรั่งนักปั่น_หัวใจไทย

alan_bkk_003

“ผมอยากเป็นคนไทย อยากมีสัญชาติไทย เพราะผมรักเมืองไทย ผมรักในหลวง”

คำพูดสั้น ๆ แต่สะท้อนให้เห็นถึงความในใจทั้งหมดของ “อลัน เบท” หนุ่มนักปั่นจักรยานมืออาชีพชาวอังกฤษ ที่มีหัวใจและเลือดรักชาติเป็นสีแดง ขาว น้ำเงิน คนนี้ได้เป็นอย่างนี้

o100804e0q6l

ชื่อของ “อลัน เบท” หรือนายอิสระ วัย 44 ปี ชายชาวลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ อาจเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก เพราะเขาเป็นนักปั่นจักรยานฝีมือดี ติดอันดับท็อปเทนของโลก แต่สำหรับคนไทยแล้ว “อลัน เบท” อาจจะกลายเป็นแค่เพียงชาวต่างชาติที่มาปั่นจักรยานเที่ยวเมืองไทย แล้วก็กลับไปเหมือนคนอื่น ๆ หากไม่ใช่เช่นนั้น เพราะเมื่อ “อลัน เบท” มาเที่ยวเมืองไทย ได้สัมผัสวิถีชีวิตเมืองไทยแล้ว มันทำให้เขาซับความเป็นไทย และมีดวงใจจงรักภักดีต่อพ่อหลวง เหมือนคนไทยทั่ว ๆ ไปในแผ่นดินสยามเมืองยิ้ม

image

“อลัน เบท” เริ่มปั่นจักรยานมาตั้งแต่อายุ 13 ปี โดยเลิกเล่นรักบี้ที่เขารักมาคลุกคลีอยู่กับรถสองล้อ ทำให้ครอบครัวของ “อลัน เบท” ไม่พอใจเป็นอย่างมาก จนไม่ยอมพูดคุยกับเขาเกือบปี แต่แล้วเมื่อ “อลัน เบท” เข้าแข่งขันขี่จักรยานและได้รับรางวัลมามากมาย พ่อของเขาจึงยอมยกโทษให้ และตั้งแต่นั้นมา “อลัน เบท” ก็ขี่จักรยานหาเลี้ยงครอบครัวมาโดยตลอด โดยอลัน เบท พูดเสมอว่า ที่เขาชอบขี่จักรยาน ก็เพราะยามที่ได้นั่งอยู่บนอาน เขาได้สัมผัสถึงชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติ อีกทั้งการขี่จักรยานจะเป็นการสร้างมิตรภาพที่ดี เพราะตลอดเส้นทางที่ขี่ จะนำเพื่อนใหม่ ๆ มาให้ชีวิต

ย้อนกลับไปเมื่อ พ.ศ.2548 “อลัน เบท” ได้ฝึกซ้อมจักรยาน เตรียมเข้าแข่งขันไปยังประเทศลาว เวียดนาม กัมพูชา และไทย แต่แล้วกลับเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานตกเหว ทำให้ “อลัน เบท” ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่เชียงของ และน้ำใจของคนเชียงของนี่เอง ที่เป็นเหมือนมนต์สะกดให้ “อลัน เบท” ตัดสินใจแต่งงานกับภรรยาคนไทย และใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ กับลูกชายตัวเล็ก ๆ หนึ่งคนที่สามารถใช้ได้ 2 สัญชาติ แต่ “อลัน เบท” กลับเลือกให้ลูกชายใช้เพียงสัญชาติไทยเพียงอย่างเดียว

ตลอดเวลาที่ “อลัน เบท” ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย เขาต้องการเผยแพร่ความรู้เรื่องจักรยานให้เยาวชนได้รับรู้ จึงได้เช่าบ้านเล็ก ๆ ไว้หลังหนึ่ง เพื่อเปิดพิพิธภัณฑ์จักรยาน โดยรวบรวมจักรยานโบราณไว้มากมาย ในชื่อว่า “เดอะ ฮับ” จากนั้น “อลัน เบธ” มีโอกาสได้เรียนรู้พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากคำบอกเล่าของภรรยา และยังได้เข้าเยี่ยมชมโครงการในพระราชดำริต่าง ๆ ของพระองค์ จึงรู้สึกปลาบปลื้มในน้ำพระทัยเป็นอย่างมาก และยังมองว่า สิ่งที่พระองค์ทรงปฏิบัติทั้งหลายทั้งปวง ก็เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดี ซึ่งครอบครัวของ “อลัน เบท” ก็คือส่วนหนึ่งของสังคมไทยที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณของพ่อหลวง นั่นจึงทำให้ “อลัน เบท” คิดโครงการปั่นจักรยานเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้น

xw1_1

การเดินทางครั้งแรกของ “อลัน เบท” เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2549 โดยเขาปั่นจักรยานจากเชียงใหม่-กรุงเทพฯ รวมระยะทาง 760 กิโลเมตร ใช้เวลา 26.04 ชั่วโมง ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2550 เขาปั่นจากภูเก็ต-กรุงเทพฯ ด้วยระยะทาง 860 กิโลเมตร ใช้เวลา 29.15 ชั่วโมง และครั้งที่ 3 อลัน เบท เดินทางจาก อ.เชียงของ เข้าตัวเมืองเชียงรายด้วยระยะทาง 105 กิโลเมตร ใช้เวลา 2.42 ชั่วโมง ซึ่งการปั่นจักรยานทั้ง 3 ครั้งของ อลัน เบท สามารถทำลายสถิติโลกได้ทั้งหมด และทุกครั้ง “อลัน เบท” ยังเริ่มเดินทางในวันที่ 5 ธันวาคมด้วย

แน่นอนว่า ความพยายามของ “อลัน เบท” ที่จะปั่นจักรยานถวายในหลวง ยังไม่จบอยู่เพียงเท่านี้ เพราะเขาได้คิดโครงการปั่นจักรยานรอบโลกขึ้น ด้วยความปรารถนาที่จะเผยแพร่วัฒนธรรมไทย และบอกเล่าพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ออกไปสู่สายตาชาวโลก นอกจากนี้ “อลัน เบท” ยังหวังลึก ๆ ให้การเดินทางของเขาครั้งนี้ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กรุ่นใหม่ ก้าวเข้ามาเป็นนักกีฬาที่มีประสิทธิภาพต่อไป

“ผมอยากทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และพิเศษเท่าที่จะทำได้ ผมทำสิ่งที่เชื่อมั่นว่า ดีที่สุดเพื่อตอบแทนแผ่นดินไทย ผมรู้สึกประทับใจภูมิปัญญาอันชาญฉลาดของในหลวง พระองค์ท่านทรงเก็บสุนัขข้างถนนมาเลี้ยง ถ้าเป็นคนมีเงิน คงหาสุนัขพันธุ์ดี ราคาแพงมาเลี้ยง ผมได้ศึกษาโครงการพระราชดำริและนำมาปรับใช้กับชีวิต” อลัน เบท กล่าว

alanbate1
“อลัน เบท” ได้ลงมือทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ปั่นจักรยานถวายในหลวง เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2553 โดยก่อนเดินทางรอบโลก “อลัน เบท” ได้ไปร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่โรงพยาบาลศิริราช จากนั้นเขาได้เดินทางไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า สถานที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้ โดยแผนการของ อลัน เบท คือการเริ่มปั่นจักรยานลงใต้ไปสู่ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ นั่งเครื่องบินข้ามไปยังออสเตรเลีย ปั่นต่อไปที่นิวซีแลนด์ ซานฟราสซิสโก นิวยอร์ก แคนาดา อาร์เจนตินา อุรุกวัย บราซิล โปรตุเกส สเปน ฝรั่งเศส ลอนดอน ย้อนกลับไปฝรั่งเศสอีกครั้ง เพื่อข้ามฝั่งไปยังเนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม เยอรมนี ตุรกี อินเดีย พม่า และมุ่งสู่เชียงของ ก่อนจะมาสิ้นสุดระยะทางที่กรุงเเทพฯ อันเป็นจุดเริ่มต้นอีกครั้ง ซึ่ง “อลัน เบท” ตั้งใจว่า ครั้งนี้จะปั่นจักรยานผ่าน 20 ประเทศ ด้วยระยะทางกว่า 29,500 กิโลเมตร ที่ไม่นับรวมการเดินทางโดยรถยนต์ และเครื่องบิน ภายในเวลา 165 วัน โดยอีกหนึ่งความหวังของ “อลัน เบท” ที่มีต่อการปั่นจักรยานครั้งนี้คือ การทุบสถิติของ “จูเลี่ยน ซาเยอร์” ที่ได้ปั่นจักรยานรอบโลก ระยะทาง 28,970 กิโลเมตร ในเวลา 165 วัน ให้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม “อลัน เบท” รู้ดีว่า การปั่นจักรยานรอบโลกครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก แต่ความมุ่งมั่นของ “อลัน เบท” ที่ปรารถนาทำเพื่อในหลวงของปวงชนชาวไทย กลับเป็นแรงบันดาลใจให้ “อลัน เบท” ผู้ซึ่งอยากมีสัญชาติไทย อยากเป็นคนไทย และอยากใช้ชื่อไทยว่า “นายอิสระ” ได้เป็นอย่างดี

“ผมอยากใช้ชื่อไทยว่า นายอิสระ เพราะปัจจุบันคนเกิดมาพร้อมประสาทสัมผัสที่เย้ายวน ให้คนหลงในวัตถุจนเกินไป แต่จากประสบการณ์การปั่นจักรยานมาหลายแห่งในเมืองไทย ได้เห็นความงดงามหลายอย่างที่ซ่อนอยู่ ทำให้รู้สึกชีวิตมีอิสระ” อลัน เบท เล่าที่มาของชื่อนายอิสระ

ทั้งนี้ อลัน เบท ยังเชื่อว่า ประสบการณ์ที่ผ่านมา จะช่วยให้เขาสามารถผ่านพ้นอุปสรรคในการปั่นจักรยานรอบโลกได้ และไม่ว่าท้ายที่สุดแล้ว การปั่นจักรยานของเขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม อย่างน้อยเขาก็ได้ทำหน้าที่เผยแพร่วัฒนธรรมอันดีงามของชาวไทย และพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ชาวโลกได้เห็นแล้ว โดยตลอดการเดินทาง “อลัน เบท” จะได้บอกเล่าเรื่องราวต่างผ่านการสื่อสารทางเฟซบุ๊ก (Facebook) ไฮไฟว์ (hi5) และเว็บไซต์ที่สนับสนุนช่วยเหลือการเดินทางของ “อลัน เบท” ครั้งนี้

“สิ่งที่ผมทำเพื่อเป็นของขวัญให้คนไทย เพราะผมอยากเป็นคนไทย สัญชาติไทย หากวันที่ผมขี่จักรยานกลับมาเมืองไทย แล้วผมรู้ว่า ผมได้สัญชาติไทย ก็คงดี เพราะโลกจะได้บันทึกว่า ผมเป็นคนไทยที่ขี่จักรยานรอบโลกและทำลายสถิติได้สำเร็จ” อลัน เบท ทิ้งท้ายไว้ด้วยคำพูดจากใจ

และนี่ก็คือ สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝรั่งหัวใจไทยคนหนึ่ง ที่ปรารถนาจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อเทิดไท้องค์พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย เชื่อว่า คนไทยทุกคนคงเอาใจช่วยให้ “อลัน เบท” สามารถก้าวเดินไปตามความฝันของเขาได้สำเร็จ

เครดิต
http://hilight.kapook.com/view/48322


alan_bkk

อลัน เบท วัย 45 ปี (2010) เป็นอดีตนักปั่นจักรยานทีมชาติอังกฤษผู้มีชื่อเสียงอย่างมาก โดยได้นำทีมชาติอังกฤษกวาดแชมป์ปั่นจักรยานระดับโลกมาแล้วหลายสิบรายการ

อลัน มาอยู่เมืองไทยได้ 10 กว่าปีกว่าแล้ว ที่อำเภอเชียงของ ยิ่งอยู่ยิ่งรักเมืองไทย ยิ่งอยู่ยิ่งรักในหลวง

เคยขี่จักรยานเทิดพระเกียรติมา 3 ครั้งแล้ว ครั้งแรกขี่จากเชียงใหม่ มากรุงเทพฯ แบบขาไม่แตะพื้น ( Non-Stop) ใช้เวลา 26 ชั่วโมง

ครั้งที่ 2 ขี่จากภูเก็ตมากรุงเทพ แบบขาไม่แตะพื้น ( Non-Stop) เหมือนเดิม ใช้เวลา 29 ชั่วโมง

ครั้งที่ 3 ขี่จากอำเภอเชียงของไปเชียงราย ครั้งนี้ใกล้หน่อย แค่ 105 ก.ม. แต่ทำสถิติด้านความเร็ว เพราะใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง 40 นาที ทำความเร็วเฉลี่ยที่ 43.5 ก.ม.

วันที่ 31 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา อลัน ออกเดินทางขี่จักรยานรอบโลก ระยะทางประมาณ 29,500 ก.ม. เพื่อต้องการแสดงออกให้คนทั่วโลกรับรู้ว่า ตัวเขาและคนไทย รักในหลวงแค่ไหน


ภาพยนต์ของ Alan Bate 

สารคดีชุดนี้จัดทำขึ้นโดยรายการฉันรักเมืองไทย

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของฝรั่งที่มีหัวใจไทย

Alan Bate เป็นชาวอังกฤษ ซึ่งบัดนี้เขามีใจเป็นไทยเต็มร้อย

——

ฉันรักเมืองไทย ตอนที่ 1 [Alan Bate]

 

ฉันรักเมืองไทย ตอนที่ 2 [Alan Bate]

 

ฉันรักเมืองไทย ตอนที่3 [Alan Bate]

 

ฉันรักเมืองไทย ตอนที่ 4 [Alan Bate]


” ..คนส่วนใหญ่ทุกวันนี้ดำเนินชีวิตตามแบบตะวันตก
คือพยายามหาความสุขจากวัตถุนิยม
การใช้ชีวิตที่เร่งด่วน
พวกเขาคิดว่าเมื่อไปซื้อของแล้วจะสามารถซื้อความสุขได้
แต่สิ่งนั้นมันไม่มีอยู่จริง ไม่ใช่ชีวิตจริง

สำหรับที่นี่ พระเจ้าอยู่หัวของคนไทย ทรงชี้นำแบบอย่างของการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย สงบสุข
ผมนับถือสิ่งนี้จริงๆ..”

อลัน เบท
Alan Bate

แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน