เรื่องความรักในวัยหนุ่มของหลวงปู่คำพันธ์

เล่าเรื่องรักของหลวงปู่คำพันธ์ไว้เดี๋ยวนี้เลยก็ดีนะครับ

กลัวลืม

เรื่องนี้หลวงปู่เล่าให้ผมฟังเองเมื่อนานมากแล้ว

นี่ก็นึกอยู่แทบจะทั้งวัน

ชักแน่ใจว่ารายละเอียดบางส่วนลืมไปแล้วจริงๆ คงเหลือแต่เนื้อหาหลักๆเท่านั้น

ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืน ระหว่างพิธีพุทธาภิเษกพระกริ่งรุ่นแรกของหลวงปู่คำพันธ์ ราวๆปี๓๑-๓๒นี่แหละครับ เป็นช่วงเวลาท้ายสุดที่ผมยังอาศัยอยู่กรุงเทพฯ ก่อนจะย้ายไปอยู่อุบลฯในปี๓๓ หลวงปู่เข้าพักผ่อนที่ในกุฏิหลังเดิม ผมตามเข้าไปในกุฏิของท่านด้วย พร้อมกับศิษย์รุ่นใหญ่ใกล้ชิดอีกหลายคน

หลวงปู่อารมณ์ดี เล่าเรื่องราวของท่านในอดีตให้ฟังหลายเรื่อง

ขณะหนึ่งท่านหันมาแซวผม

“หนวดน่ะไว้ทำไม”

ผมไม่นึกว่าท่านจะถามแบบนี้ เล่นเอางงเป็นไก่ตาแตก คิดไม่ออกว่าจะตอบท่านอย่างไร ได้แต่นิ่งอึ้งยิ้มแห้งๆเฉยอยู่

ท่านก็ว่า “ไว้เกี้ยวสาวล่ะสิ”

“ผมกลับบ้านแล้วจะโกนทิ้ง”

“ถ้าโกน…ปู่จะจำเจ้าไม่ได้”

ตกลงก็ไม่โกน

กลัวหลวงปู่ลืมหน้า

ต่อมาท่านก็เล่าเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าท่านจะเล่าและจะได้ยินจากปากของท่านเอง

“สมัยหนุ่มๆหลวงปู่ก็หล่อเหมือนกันนะ”

ท่านเล่าช้าๆเสียงเนิบๆเปลี่ยนอารมณ์ไปอีกแบบ สะกดทุกคนให้เงียบกริบตั้งใจฟัง

สมัยที่หลวงปู่สึกจากการบวชครั้งแรก ไปช่วยพ่อแม่เลี้ยงน้องและทำนา ที่บ้านหนองหอย บ้านเกิด เข้าใจว่าขึ้นกับอำเภอนาแก จ.นครพนม

มีสตรีรุ่นราวคราวเดียวกับหลวงปู่ มาหลงรักหลวงปู่และหลวงปู่เองก็มีใจรักเขาเช่นกัน

ผู้ใหญ่สองฝ่ายก็เห็นดีเห็นงามให้ทั้งคู่แต่งงานกัน

ถึงกับกำหนดวันแต่งงาน เตรียมการพร้อมทั้งหมด

แต่ใครจะไปเชื่อ..ช่างเหมือนเกิดเหตุฟ้าผ่ากลางแดดเปรี้ยงโดยไม่มีเค้าฝน

พรุ่งนี้จะประกอบพิธีแต่งงานอยู่แล้ว  หลวงปู่เข้าวัดโกนหัวบวชเป็นพระอีกรอบเฉยเลย

เช้าวันรุ่งขึ้นหญิงสาวผู้เป็นว่าที่เจ้าสาวแทบจะเป็นลม เมื่อเห็นหลวงปู่โกนหัวห่มเหลืองเดินอุ้มบาตรมาบิณฑบาตที่หน้าบ้าน

ปานว่าหัวใจกำลังสลาย หล่อนได้กล่าวกับหลวงปู่ว่า “ท่านบวชแล้วก็จงเป็นพระต่อไปเถิด ส่วนฉันจะรอท่านจนกว่าจะถึงวันที่ท่านสึก จะไม่แต่งกับใคร จะไม่รักใครอีก”

หลังจากบวชพระแล้ว หลวงปู่ยังคงพำนักอยู่แถวนั้น คือพักอยู่วัดบนเขาใกล้บ้าน(จำใม่ได้ว่าเป็นวัดอะไร) ยังไม่ย้ายไปอยู่ที่อื่น

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนๆไม่ทราบ หลวงปู่เกิดอาพาธเป็นไข้อยู่บนเขา

หญิงสาวท่านนั้นทราบข่าวก็เกิดกังวลห่วงใยหลวงปู่จนระงับมิได้ หาหยูกยาเท่าที่จะหาได้ เดินขึ้นเขาฝ่าความมืดไปหาหลวงปู่ทั้งกลางคืน

ระหว่างเดินทางขึ้นเขา ถูกงูเห่ากัด เสียชีวิตอยู่กลางทางนั้น

เมื่อเล่าถึงตอนนี้ หลวงปู่เหมือนกลืนก้อนสะอื้นไว้ในลำคอ

ท่านพูดเสียงเครือเบาๆว่า

“ปู่มีกรรม..ปู่เป็นต้นเหตุให้เขาตาย”

****

ผู้เขียน : อำพล เจน /Jun 18 2014

แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน