ตะกรุดปาฏิโมกข์


อย่างไรก็ตามมีผู้คิดทำตะกรุดหัวใจและตับพระปาฏิโมกข์ขึ้นมาคือ คุณเอกสุวัชร์ มงคลธันยวัชร์ โดยได้อาจารย์เวทย์เป็นผู้ลงมือจารพระคาถา โดยแยกทำเป็น 2 ดอก คือหัวใจพระปาฏิโมกข์ เป็นตะกรุดดอกสั้น ยาวประมาณ 5 ซ.ม.และตับพระปาฏิโมกข์ เป็นตะกรุดดอกยาว ความยาวประมาณ 6 ซ.ม. ทุกดอกพอกผงฝังโค้ดและพลอยเสกของหลวงปู่คำพันธ์ สร้างขึ้นอย่างละ 80 ดอก เท่าอายุพระพุทธองค์ สร้างแล้วนำเข้าเสกพร้อมกับ กศปมหาฤษี ในคืนวันที่ 12 ต. ค. 2547 โดยองค์หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม วัดป่าจิตตวิยาราม อ.ปากคาด จ.หนองคาย

 

หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม วัดป่าจิตตวิยาราม อ.ปากคาด จ.หนองคาย


ตะกรุดชุดนี้เดิมตั้งใจจะออกในนามวัดบรมนิวาส แต่ผู้สร้างคือคุณเอกสุวัชร์ เกิดเปลี่ยนใจยกให้เป็นตะกรุดรุ่นแรกของหลวงปู่ทองสา และมอบให้ผมดำเนินการจำหน่ายแทน ปัจจุบันตะกรุดเหลืออยู่น้อยมาก คือ ชนิดดอกสั้น (หัวใจ) มี 32 ดอกชนิดดอกยาว (ตับ) มี 36 ดอก ให้บูชาดอกละ 500 บาท

รายได้เข้าบำรุงที่พักสงฆ์สภาบุญ (โพธิญาณธรรมสถาน ) อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลฯ ซึ่งเป็นที่พักสงฆ์ที่หลวงปู่ทองสาเดินทางมาพักประจำ

ขออนุญาตโม้หน่อย

ตะกรุดชุดนี้มีประสบการณ์แล้วครับ

ลองพาดหัวข่าวดูจะเป็นไร

“ทึ่ง! เด็ก 7 ขวบถูกเก๋งชนกันชนยุบ รอดตายปาฏิหาริย์”


“ผู้สื่อข่าวสืบหาพระเครื่องดี (ก็พรรคพวกกันนั่นแหละ) รายงานว่า เกิดเหตุรถเก๋งของครูสาว (ไม่ทราบชื่อ) ชนเด็กชาย ภูธร สิงห์พันธ์ อายุ 7 ขวบกระเด็นจนถึงกับกันชนรถเก๋งยุบ ที่ถนนศรีณรงค์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2548 หลังจากนำตัวเด็กชายภูธรส่งโรงพยาบาลแล้ว แพทย์ตรวจไม่พบบาดแผล และอาการผิดปกติ จึงให้กลับบ้านได้ ในตัวของเด็กชายภูธร สิงห์พันธ์ มีตะกรุดพระปาฏิโมกข์ของหลวงปู่ทองสาคาดเอวอยู่ดอกเดียว”

ทีนี้มาคุยแบบคุยคุ้ยข่าวดูมั่ง

“ชนถึงขนาดกันชนรถเก๋งยุบนี่ อย่าว่าแต่เด็ก 7 ขวบเลย หมาตัวโตๆยังตาย”

 

 

เรื่องของเรื่องมีว่า พ่อของเด็กชายภูธร คือ นายพรชัย สิงห์พันธ์ทำงานอยู่ บ.ไทยยนต์ จก.อุบลฯ. ได้รับตะกรุดจากอาจารย์เวทย์ไปดอกหนึ่ง เป็นตะกรุดตับพระปาฏิโมกข์ ก็เอาไปผูกเอวให้ลูกชาย 7 ขวบไว้ เพราะเห็นลูกชายออกจะซนมาก

วันเกิดเหตุเป็นวันหยุดปลายเดือนกุมภาพันธ์ เด็กชายภูธรเล่นลูกบอลอยู่ข้างๆถนน ลุกบอลเกิดพลัดวิ่งไปกลางถนน ก็วิ่งตามไปเก็บ รถเก๋งของครูสาวขับมาอย่างเร็วเบรคไม่ทัน จึงชนโครมกระเด็นไปต่อหน้าต่อตา

เด็กก็ตกใจร้องไห้จ้า ครูก็ตกใจวิ่งลงจากรถมาดู ไม่พบร่องรอยบาดแผลอะไร แต่ก็ไม่สบายใจพาไปโรงพยาบาลเพื่อเอ็กซเรย์ดูภายใน ผลคือไม่พบอะไรผิดปกติแพทย์ให้กลับ และไม่จ่ายยาให้อีกด้วย เพียงแต่สั่งว่าให้ดูอาการสัก 4 – 5 วัน ถ้ามีอะไรผิดปกติให้รีบกลับไปหาแพทย์

ครูสาวก็ให้ชื่อและเบอร์โทรศัพท์แก่พ่อของเด็กไว้ พอ 4 – 5 วันผ่านก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จนนานเข้าก็เลยทิ้งชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของครูสาวคนนั้นไป เลยจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร แต่คลับคล้ายว่าเป็นครูสอนหนังสืออยู่โรงเรียนปทุมพิทยาคารนี่แหละ

ถ้าครูสาวท่านนี้อ่านพบเรื่องนี้ช่วยโทรฯหาผมด้วย อยากคุยหารายละเอียดเอามาโม้ต่ออีกรอบ

คุณพรชัยพ่อของเด็ก 7 ขวบบอกว่า รอยฟกช้ำดำเขียวก็ไม่มีลูกเป็นปกติดีทุกอย่าง

แปลกนะครับ

เห็นจะจริงตามที่ครูบาอาจารย์โบราณบอกไว้ อุปเท่ห์ของตับพระปาฏิโมกข์นั้นป้องกันภัยอันตรายได้

จบข่าว

………………………………………………………………..

ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ฉบับที่ 539 วันที่ 16 มิถุนายน 2548

แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน