5/ นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล

มีผู้อ่านท่านหนึ่งให้ข้อมูลว่า พญานาคทั้ง 7 นี้มีชื่อเรียงตามลำดับดังนี้

องค์แรกมีนามว่า พญาสัทโทนาคราชเจ้า เป็นประธานหมู่คณะ องค์ที่ 2 คือ พญาศีลวุฒินาโค องค์ที่ 3 คือ พญาหิริวุฒินาโค องค์ที่ 4 คือ พญาโอตตัปปะวุฒินาโค องค์ที่ 5 คือ พญาพาหสัจจะวุฒินาโค องค์ที่ 6 คือ พญาจาคะวุฒินาโค และองค์ที่ 7 พญาปัญญาเตชุวุฒินาโค

ชื่อพญานาคทั้ง 7 นี้ ได้มาจากการประทับทรงสามเณร ซึ่งผู้อ่านท่านนี้ได้แนบเอกสารประกอบมาด้วยว่า ชื่อสามเณรทรัพย์ คือทราบชื่อสามเณรรูปนี้ด้วย

ข้อเท็จจริงของชื่อสามเณรทัพย์นั้นได้มาจากการสัมภาษณ์แม่ชีมณีจันทร์พันธ์ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2537 หลังจากเกิดเหตุการณ์เข้าทรง 37 ปี แต่ในขณะเดียวกันก็มีหลายท่านบอกว่าสามเณรนั้นชื่อ สมบัติ ก็มี

เมื่อดูในบันทึกที่เป็นทางการของวัดธาตุพนมที่เขียนโดยอดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุพนมกลับไม่ปรากฏชื่อสามเณรแต่อย่างใด

ผู้อ่านท่านนี้ได้แย้งมาด้วยว่า ชื่อของพญานาคทั้ง 7 องค์ ที่ส่งมาให้ผมนั้นไม่ตรงกันกับที่ผมได้ลงไว้ในสืบหาพระเครื่องดี ฉบับ 566 หน้า 42 ซึ่งที่จริงก็คงจะเป็นหน้า 67 ที่ได้กล่าวถึงความเห็นของหลวงปู่คำพันธ์ ซึ่งเห็นว่า ทำนายไกฮวดเห็นลำแสงประหลาด 7 ลำแสงนั้นเป็นพญาศรีสุทโธและอำมาตย์ทั้ง 6 แสดงฤทธิ์ และบอกชื่ออำมาตย์ทั้ง 6 ไว้เพียง 3 ชื่อ ซึ่ง 3 ชื่อนี้ไม่ตรงกับข้อมูลที่ผู้อ่านท่านนี้ส่งมา

เรื่องชื่อนี้เป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ เกิดจากความเชื่อของแต่ละแหล่งข้อมูล และเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นแค่นามธรรม จับต้องไม่ได้ เพราะว่าออกมาจากปากของร่างทรง จึงขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกเชื่ออะไรหรือไม่เชื่ออะไร

อย่างไรก็ตาม ชื่อพญานาคทั้ง 7 นี้ เมื่อพิจารณาแล้วจะพบว่า เป็นชื่อที่มาจากสัตตธรรม คือ ข้อธรรมทั้ง 7 คือ สัทโธ (ศรัทธา) ศีล หิริและโอตัปปะ จาคะ ปัญญา นับว่าเป็นชื่อที่ดีมาก และชื่อพญานาคทั้ง 7 นี้ก็เป็นที่ยอมรับอยู่ในวัดพระธาตุพนมจนทุกวันนี้ ถึงกับว่ามีการกำหนดสีประจำพญานาคแต่ละองค์ไว้ด้วย

พญาสัทโท สีน้ำเงิน พญาศีลวุฒิ สีเขียวแก่ พญาหิริวุฒิ สีเขียวอ่อน พญาโอตตัปปะ สีเหลือง พญาพหุสัจจุ สีชมพู พญาจาคุวุฒิ สีแสด และพญาปัญญาวุฒิ สีขาว

ในพิธีบูชาพญานาคของวัดพระธาตุพนมทุกปีก็จะจัดพานกระทง 7 สี ตามนี้

เกี่ยวกับพิธีบูชาพญานาคของวัดพระธาตุพนมนั้น แต่เดิมไม่มี เพิ่งจะมีขึ้นครั้งแรกในปี 2501 คือ ปีรุ่งขึ้นหลังจากนายไกฮวดเห็นลำแสงประหลาด (พ.ศ. 2500) และก็มีต่อมาเป็นประจำทุกปีจนปัจจุบันนี้ (พิธีจัดในวันออกพรรษา)

ในการจัดพิธีบูชาพญานาคครั้งแรกในปี 2501 นั้น ก็มีผู้ได้เห็นลำแสงประหลาดอีกครั้งหนึ่ง ดังบทสัมภาษณ์นายสมบูรณ์ ตั้งไพบูลย์ ต่อไปนี้

“วันจัดงานครั้งแรก 2501 นั้น ฉันเห็นแถบสีขึ้นมา 7 สี พาดอยู่บนท้องฟ้า เกิดขึ้นตอนกลางคืนก่อนเวลาตีสอง ฉันไหว้พระไหว้อะไรแล้วก็ออกไปเดินยืดแข้งยืดขาอยู่ในลานพระธาตุ (เดินจงกรม) มีเพื่อนออกมาด้วยคนหนึ่ง เพื่อนบอกว่า ดูโน่นแน่นบนฟ้า ฉันเงยหน้าดูเห็นเป็นริ้ว ๆ 7 สี จะว่ารุ้งกินน้ำก็ไม่ได้ อะไรจะมีรุ้งตอนกลางคืน ริ้วของสี 7 สี กิดขึ้นนานพอสมควร จนพอจะเรียกคนอื่นมาดูด้วยกันได้อีกหลายคน ฉันก็เลยนั่งลงยกมือไหว้”

เรื่องแสงประหลาดที่มีผู้พบเห็นก็ไม่เคยได้ยินอีกเลยจนกระทั่งนายยงยุทธ ชาวขอนแก่นบันทึกภาพไว้ได้ในเร็ว ๆ นี้ ซึงยังไม่อาจทราบได้ว่าลำแสงที่นายยงยุทธถ่ายภาพได้จะเป็นเหมือนลำแสงที่นาย ไกฮวดและคนของนายสมบูรณ์เห็นหรือไม่

ความเชื่อในเรื่องพญานาคนี้เป็นเรื่องที่พูดลำบาก หาที่จะหาเหตุผลมากล่าวอ้าง จนแม้เพื่อนพ้องของผมเองก็ตั้งข้อสงสัยว่า พญานาคนี้เป็นอะไรแน่ ภพภูมิของพญานาคต่ำกว่าคนหรือเปล่า หรือว่าพญานาคจะจัดเป็นพวกอสุรกาย

พระมหาสม สุมโน ได้อธิบายเกี่ยวกับพญานาคไว้เพียงสั้น ๆ ว่า

“พญานาคเป็นเทวดาพวกหนึ่ง ไม่ใช่งู อยุ่รวมกัน แต่อยู่คนละภพ ละเอียดกว่ามนุษย์เรา และฝึกวิชาได้ในระดับหนึ่ง”

ความเชื่อในเรื่องพญานาคทั้ง 7 ยังปรากฏอยู่ในบทเทศนาของเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม ปี 2530 ระหว่างพิธีบูชาพญานาคประจำปีนั้นดังนี้

“องค์สมเด็จพญานาคเจ้าทั้ง 7 ได้เสด็จมาประทานโอกาสบำเพ็ญบารมีธรรม ได้อาศัยร่มเงาพระธาตุพนมเจ้ามาเป็นเวลาหลายสิบปี เริ่มแต่พระธรรมราชานุวัตร เจ้าอาวาสองค์ก่อนลำดับมา ปรากฏได้ประจักษ์ในการรักษาบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บแก่ประชาสัตว์ ประชาชนน้อยใหญ่หลั่งไหลมา ได้ความสุขความเจริญ แบ่งเบาบรรเทาทุกข์ในกาย ใจ ตามลำดับ เพื่อประโยชน์แก่ส่วนตน ส่วนรวม ประเทศชาติทั้งหลาย

ข้าพเจ้าในนามเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม คณะกรรมการสงฆ์ 12 รูป คณะไวยาวัจกร คณะสงฆ์ สามเณร 300 กว่ารูป ธีพราหมณ์ พราหมณ์ชี ลูกศิษย์ คนงาน ที่อาศัยแผ่นดินวัดพระธาตุพนมทั้ง 300 ไร่ และ 380 ไร่ที่ได้มาใหม่ ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นพระบารมีธรรม

ต่อจากนั้นกล่าวถึงทศชาติอันเป็นตัวอย่างของความตั้งใจในการบรรลุนิพพาน โดยเสวยชาติสุดท้ายเป็นพระพุทธเจ้า เมื่อบรรลุแล้วได้เทศนาโปรดสัตว์ มนุษย์ เทวดา ทั้งไตรภูมิ คือ กามภูมิ รูปภูมิ อรูปภูมิ

พญานาคเคารพพระพุทธเจ้ามาขอบวช พระพุทธเจ้าให้บวช บวชแล้วนอนกลางวัน ไม่ปิดประตู สติไม่พอนอนแล้วกลายเป็นงู คนไปฟ้องว่าทำไมเอางูมาบวช แต่ตอนเช้ากลายเป็นพระ พระนาครูปนั้นเลยสึก แล้วขอฝากชื่อไว้เพราะเคารพพระพุทธเจ้า ใครมาขอบวชก็ให้ได้ชื่อว่าบวชนาคเถิดพระเจ้าข้า

เพราะฉนั้นเรื่องพญานาคเชื่อได้ แต่เรื่องหลอกเอาเงินคนนั้นเป็นบาป ถือว่าเชื่อไม่เป็น พญานาคมีจริง มีได้เป็นจริง เป็นได้ อาจเป็น 7, 100, 1000 องค์ นับถือได้ เคารพปฏิบัติได้ ส่งเสริมได้ อุปัฏฐากได้ ต้องให้ได้ประโยชน์ พระธาตุพนมเคารพได้เป็นบุญ เคารพผิดเป็นบาป แม้แต่พระ อาศัยญาติโยมเลี้ยง หากินมาให้ พระเณรย่อมเป็นศัตรูตัวเอง กินข้าวบาตรโยมไม่เป็น

พญานาคทั้ง 7 องค์ อย่าได้เกรงใจคน ขอให้ศักดิ์สิทธิ์ ข้าพเจ้าเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม ขอมอบสิทธิอำนาจวัดพระธาตุพนม พระเณรปฏิบัติตัวไม่ดี ขอให้พ่นพิษพญานาคใส่เพื่อฆ่ากิเลส ความโลภ โกรธ หลง แก่พระวัดนี้ พญานาคเจ้าทั้ง 7 องค์ มีสัทโธพญานาคเจ้า เป็นต้น ขอได้ทรงทราบ รับทราบ ได้รับศีล ส่วนกุศลที่พ่อแม่พี่น้อง ที่พระเดชพระคุณ ท่านพ่อ พระธรรมราชานุวัตร ได้เป็นองค์ต้น จัดของแต่งสถานที่รับรองแด่พญานาคทั้ง 7 แห่ง พระธาตุพนม เทวดาทั้งหลายที่รักษาพระธาตุ ปู่ย่าตาทวด มเหสักข์หลักเมืองที่รักษาพระธาตุทุกองค์ทุกท่านขอได้โปรดทราบ รับส่วนแสดงออกอำนาจอิทธิ์ฤทธิ์มหากุศล ฤทธิ์มหานภาพทั้งหลายที่จะปราบโลกสกปรก คนเสนียดจัญไรอย่าให้มีในวัดนี้ ในชีวิตจิตใจเราทั้งหลายนี้ให้หนีจากไปให้ได้แต่ความเจริญ สามัคคี มงคล 38 ประการ ขอถวายพระพรแด่พญานาคทั้ง 7”

แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน