6/ นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่สลัมคลองเตย กรุงเทพมหานคร เมื่อประมาณ 17 ปีที่ผ่านมา

หญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า นางหงส์ เป็นชาวอุดรธานี หลังจากพ่อแม่แยกทางกัน เธอกับน้องชายได้ไปอาศัยอยู่กับป้าที่อำเภอหนองบัวลำภู (ปัจจุบันเป็นจังหวัด) ซึ่งห้วงเวลานั้นเธอมีอายุเพียง 10 ขวบ ชีวิตตกอับ รันทดจนสุดพรรณา เมื่อไปอยู่กับป้าก็ไม่ได้เรียนหนังสือ หนำซ้ำยังถูกใช้งานเยี่ยงทาส ข้าวน้ำได้กินมั่งไม่ได้กินมั่ง เธอและน้องชายทนทุกข์อยู่จนอายุ 13 ขวบ ป้าจึงส่งเธอมาเป็นคนรับใช้ในบ้านหลังหนึ่งแถบสลัมคลองเตย ส่วนน้องชายไปหางานทำที่จังหวัดอุดรธานี

เมื่อมาอยู่กรุงเทพฯ ชะตาชีวิตก็หาได้ดีขึ้นไม่ เงินเดือนทุกเดือนทุกบาททุกสตางค์จะถูกส่งไปให้ป้าที่อำเภอหนองบัวลำภูทั้งหมด เธอแค่ได้กินอิ่มนอนหลับเท่านั้น

ต่อมาได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดกับนางหงส์ จะเรียกว่าวิบากกรรมซ้ำซัดก็ได้

ในขณะที่เธอกลับจากซื้อของในวันหนึ่ง วัยรุ่นขี้ยาคนหนึ่งดักอยู่กลางทางและลากตัวเธอไปข่มขืน

ไอ้ขี้ยาขู่เธอว่าถ้าบอกใครมันจะกลับมาฆ่าให้ตาย ความกลัวบวกกับความอาย เธอจึงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ

ไอ้ขี้ยายิ่งได้ใจหวนกลับมาข่มขืนเธอถึงในบ้านซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระทั่งเจ้าของบ้านจับได้ และเข้าใจว่าเธอแอบนัดผู้ชายเข้ามานอนในบ้าน โกรธจัดไม่ฟังเหตุฟังผล ไล่เธอออกจากยบ้านเหมือนหมูเหมือนหมา

เธอไม่มีที่ไป ไม่มีญาติ ไม่มีเพื่อน ไม่เคยออกไปไหน ไม่รู้หนทางในกรุงเทพฯ

เธอจำใจซมซานไปหาไอ้ขี้ยาถึงที่บ้านของมันขอความช่วยเหลือ

เคราะห์กรรมก็ยังไม่หมด

ไอ้ขี้ยาให้เธออาศัยอยู่ในบ้านของมันและนับแต่นั้นเธอก็กลับเป็นทาสอีกครั้ง

เธออยู่ในภาวะจำใจ ไม่มีที่ไป ต้องทนอยู่อย่างทุกข์ทรมาน ทั้งพ่อแม่ไอ้ขี้ยา และทุกคนในบ้านข่มเหง ดุด่า ใช้งานเหมือนทาสในเรือนเบี้ย บางวันไอ้ขี้ยาก็ทุบตีอีกด้วย

และแล้วเหตุการณ์อัศจรรย์ก็เกิดขึ้น คงจะเป็นด้วยกรรมเวรของเธอหมดลงไปแล้ว

เย็นวันหนึ่งเธอกำลังหอบหิ้วของเดินย่ำอยู่บนสะพานไม้ที่มีน้ำท่วม (น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา) ปรากฏงูประหลาดตัวหนึ่งเลื้อยมาอย่างรวดเร็ว เป็นงูสีทองทั้งตัว ยาวประมาณ 1 เมตร ลำตัวขนาดลำไม้ไผ่ ฉกกัดที่เท้าของเธอจนถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แล้ววิ่งหนีไปจนถึงบ้านและบอกไอ้ขี้ยาสามีว่าโดนงูอะไรไม่รู้กัดปวดแสบปวดร้อนที่สุด

แทนที่ไอ้ขี้ยาจะเห็นใจช่วยเหลือกลับด่าซ้ำและแช่งว่าให้ถึงตายอย่างทุกข์ทรมานไปเลยจะได้พ้นหูพ้นตากู

นางหงส์เจ็บปวดหัวใจจนน้ำตานองหน้า เดินเข้าห้องทิ้งตัวลงนอนแล้วพูดกับตัวเอง

“ตายเสียเถิด จะได้พ้นทุกข์ทรมานเสียที”

จากนั้นก็หลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

แล้วก็ฝัน

มีชายชราผู้หนึ่งปรากฏกายขึ้นบอกกับเธอว่า ท่านคือพญานาคเสน ได้รับบัญชาจากพญาศรีสุทโธนาคราชให้มาช่วยเหลือ เธอได้ย้อนถามว่าช่วยเหลืออะไร พญานาคเสนตอบว่าได้ช่วยไปแล้วเมื่อตอนเย็นวันนี้ ท่านได้ให้อำนาจพิเศษแก่นางหงส์ แต่เธอกลับตกใจวิ่งหนี เธอจึงกล่าวว่า งั้นท่านก็คืองูสีทองตัวนั้น พญานาคเสนได้อธิบายว่า ตัวท่านเป็นพญานาคอยู่ประจำแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ใช่งูธรรมดา ถ้าไม่เชื่อ พรุ่งนี้ตอนเช้าจะมาให้เห็นอีก แต่ห้ามบอกใคร ให้ไปที่เก่าเพียงคนเดียว

รุ่งเช้าของวันใหม่ ชีวิตใหม่ก็อุบัติขึ้น

ทุกคนในบ้านรวมทั้งสามีตัวแสบมีพฤติกรรมประหลาดเกิดขึ้น ทุกคนเข้ามาแสดงอาการเป็นห่วงเป็นใย และเห็นใจเธออย่างแปลกประหลาด เหมือนหน้ามือกลับเป็นหลังมือในชั่วคืนเดียว

หลังจากทุกคนออกไปทำงานนอกบ้านกันหมดแล้ว นางหงส์ได้ย้อนกลับไปตรงที่เกิดเหตุโดนงูกัดอีกครั้งหนึ่ง เธอถึงกับเกิดอัศจรรย์ใจเมื่อพบงูสีทองตัวเดิมลอยเลื้อยไปมาอย่างเห็นได้ชัดอยู่นาน 10 นาที จึงมุดน้ำหายไป

เย็นวันนั้น เมื่อทุกคนกลับมาพร้อมหน้ากันที่บ้านแล้วจึงทราบว่า พ่อสามีซึ่งทำงานอยู่ในบริษัทของคุณอาทิ บูรณสมภพ ซึ่งเป็นอู่เรือที่มีโกดังเก็บสินค้ามูลค่านับ 10 ล้านบาท นำเข้ามาจากต่างประเทศ สินค้าเหล่านั้นหายไป และพ่อสามีถูกตั้งข้อสงสัยว่าจะมีส่วนร่วมในการขโมยด้วย จึงวิตกเป็นทุกข์กลัวจะถูกตำรวจจับ

จู่ๆ นางหงส์ก็บอกว่าไม่ต้องวิตก ไม่ต้องกลัว ของที่หายไปยังอยู่ ไม่ไปไหน แต่อยู่ในสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ไม่ไกลนัก ทั้งยังบอกชื่อคนลักของได้ทั้งหมดว่ามีใครบ้าง

พ่อสามีถึงกับอึ้งพูดไม่ออก

เช้าวันรุ่งขึ้นพ่อสามีนำตัวเธอไปพบกับคุณอาทิ บูรณสมภพ ให้เล่าเรื่องของที่หายให้คุณอาทิฟังทั้งหมด

คุณอาทิ เป็นมหาเศรษฐี มีความรู้ระดับปริญญาโทจากต่างประเทศ แม้จะไม่เชื่อที่นางหงส์บอก แต่ก็ยอมโทรศัพท์แจ้งตำรวจเพื่อให้ไปตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว รวมทั้งแจ้งชื่อผู้ต้องสงสัยด้วย

ปรากฏว่าทุกสิ่งเป็นจริงตามที่นางหงส์บอกทุกประการ คุณอาทิ ถึงกับยกมือไหว้นางหงส์ด้วยความเลื่อมใส และรับนางหงส์เข้ามาทำงานเป็นเลขาฯ ส่วนตัว และอยู่ในฐานะที่ปรึกษาสำคัญ คล้าย ๆ กับที่อดีตนายกฯ ทักษิณจ้างหมอดูอีทีเดือนละ 1 ล้านบาท เพื่อเป็นที่ปรึกษาทำนองนั้น

ต่อมาคุณอาทิทราบเรื่องชีวิตรันทดของนางหงส์ ก็เกิดความสงสารเหนอกเห็นใจ จนยอมเสียเงินจำนวนหนึ่งซื้อชีวิตนางหงส์ออกมาจากครอบครัวของไอ้ขี้ยา และซื้อบ้านหลังงามใหญ่อยู่ พร้อมกับจ้างคนรับใช้ส่วนตัวให้คอยรับใช้นางหงส์ด้วย

นี่คือการพลิกชะตาจากยาจกเข็ญใจกลายเป็นท้าวพระยาในข้ามคืน

ท่านเดชโอภาสยืนยันว่า ทราบเรื่องนี้จากปากนางหงส์ ขณะที่นางหงส์มากราบหลวงปู่คำพันธ์พร้อมกับคุณอาทิ และเคยพบปะสนทนากับนางหงส์ 2 ครั้ง

ทุกวันนี้ คุณอาทิ บูรณสมภพ เสียชีวิตแล้ว แต่นางหงส์จะยังอยู่ที่เดิมหรืออยู่ที่ไหนไม่ทราบ หากนางหงส์ได้อ่านเรื่องนี้ ขอให้ติดต่อมาที่ผมด้วย หมายเลขโทรศัพท์ 081-9770207 เพื่อผมจะได้ให้เบอร์โทรฯ ของท่านเดชโอภาส เพราะท่านเดชโอภาสอยากพบปะพูดคุยธุระกับนางหงส์อีก ซึ่งนางหงส์คงทราบดีว่าเป็นเรื่องอะไร

หากนางหงส์ไม่ได้อ่านเรื่องนี้ คนอื่นที่รู้จักกับนางหงส์ได้อ่านเข้าแล้ว กรุณาบอกนางหงส์ด้วย

ขอขอบพระคุณไว้ล่วงหน้า

แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน