8/ นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล


ระหว่างพรรษาที่วัดบ้านม่วงนั้น หลวงปู่ได้เรียกสามเณรทอง และสามเณรสมานไปที่ห้วยวังจานด้วยกัน ซึ่งบริเวณนั้นเป็นห้วงน้ำกว้างใหญ่ น้ำใส ลึกราว ๆ 4 เมตร

ห้วยนี้อยู่ห่างจากวัดธาตุมหาชัยราว ๆ ครึ่งกิโลเมตร

เมื่อไปถึงริมฝั่งห้วยวังจาน หลวงปู่ได้สั่งและกำชับสามเณรทองกับสามเณรสมานว่า ให้นั่งรออยู่บนบก ไม่ต้องลงไปในน้ำ เดี๋ยวตัวหลวงปู่จะลงไปทำธุระในน้ำ ให้รออยู่บนนี้ ห้ามไปไหน

พอสั่งกำชับแน่ชัดเป็นที่เข้าใจแล้ว หลวงปู่ก็เดินลงน้ำจมหายไป

สามเณรทั้ง 2 ปฏิบัติตามคำสั่งของหลวงปู่อย่างเคร่งครัด นั่งคอย นอนคอย จนทนไม่ไหวถึงออกอาการกระสับกระส่าย กระวนกระวาย ไม่รู้ว่าหลวงปู่ทำไมหายลงไปใต้น้ำนานจนเกินไปขนาดนั้น

สามเณรสมานซึ่งต่อมาคือ พ่อตาของมหาฮงผู้เป็นศิษย์ใกล้ชิดปรนนิบัติหลวงปู่คำพันธ์ตั้งแต่เป็นเณรจนเป็นมหา ได้บอกว่า

หลวงปู่หายลงไปในน้ำห้วยวังจานเกิน 1 ชั่วโมง

ในที่สุดก็ทนรอไม่ไหว เกรงว่าหลวงปู่อาจจะเป็นอะไรไป อาจจะมรณภาพอยู่ใต้น้ำไปแล้ว จึงตัดสินใจชวนกันกระโดยน้ำตามลงไปดู

ปรากฏว่าเมื่อดำน้ำลงไปแล้ว กลับเห็นหลวงปู่นั่งขัดสมาธิอยู่บนก้อนหินใต้น้ำนิ่งอยู่ พอเข้าไปใกล้ท่านก็ลืมตาขึ้นแล้วโบกมือไล่สามเณรทั้งสองให้ถอยกลับคืนไป

หลังจากนั้นสักพักใหญ่หลวงปู่จึงกลับคืนมาขึ้นฝั่ง

เรื่องอัศจรรย์นี้สามเณรทั้ง 2 ไม่เคยลืมเลือนตลอดชีวิต

วิชาที่หลวงปู่ใช้ลงไปอยู่ใต้น้ำได้เป็นเวลานับชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมงนี้ จะเป็นวิชาธนูอะไรก็ไม่ทราบ แต่ก็นับได้ว่าเป็นเรื่องอภินิหารที่สามเณรทั้ง 2 มีวาสนาได้ประสพกับตาตนเองอย่างแท้จริง

ปัจจุบันสามเณรทองเสียชีวิตไปแล้วก่อนหลวงปู่มรณภาพหลายปี ส่วนสามเณรสมานก็เสียชีวิตไปแล้วเช่นกัน คงเหลือแต่มหาฮงเป็นผู้สืบทอดเรื่องราวน่าอัศจรรย์นี้ต่อมา

ในตำรา 32 ธนูนี้ ก็ปรากฏการบันทึกศาสตร์วิชาทำรูปพญานาคอยู่ด้วย

ดังนั้นรูปพญานาคนี้จึงควรค่าแก่การเคารพบูชาเป็นอย่างยิ่ง

ต่อไปจะแสดงรายละเอียดของมวลสาร และองค์ปลุกเสกตามลำดับ

แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน