วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่

                                                                         ขโณ โว มา อุปจฺจคา.

                                                     อย่าปล่อยกาลเวลาให้ล่วงไปโดยเปล่าประโยชน์

 

หิยฺโยติ หิยฺยติโปโส ปเรติ ปริหายติ.
คนที่ผลัดวันประกันพรุ่งนี้ ย่อมเสื่อม   ยิ่งผลัดวันมะรืนนี้ ก็ยิ่งเสื่อม

กาลคตญฺจ น หาเปติ อตฺถํ.
คนขยัน พึงไม่ให้ประโยชน์ที่มาถึงแล้วผ่านไปโดยเปล่า
 
วายมสฺสุ สกิจฺเจสุ.
จงมีความพยายามในหน้าที่ของตน
นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ.
ไม่พึงวิตกกังวลถึงอนาคต
กึ กริสฺสนฺติ ตารกา.
ฤกษ์ยามและดวงดาว จักช่วยอะไรได้
 
กถมฺภูตสฺส เม รตฺตินฺทิวา วีติปตนฺติ.
ความคืนผ่านไป ๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่
 
ทฬฺหเมนํ ปรกฺกเม.
พึงบากบั่นทำการให้มั่นคง
 
อตีตํ นานฺวาคเมยฺย นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ.
อย่ารำพึงถึงความหลัง อย่ามัวหวังถึงอนาคต

อโมฆํ ทิวสํ กยิรา.
ไม่ควรให้แต่ละวันผ่านไปเปล่า
 
อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ.
รีบทำความเพียรเสียแต่วันนี้

กยิรา เจ กยิราเถนํ.
ถ้าจะทำ ก็ควรทำให้จริง
เทวา น อิสฺสนฺติ ปุริสปรกฺมสฺส.
คนที่พากเพียรไม่หยุด เทวดาก็กีดกันไม่ได้
 
วายเมเถว ปุริโส.
เกิดเป็นคน ควรพยายามเรื่อยไป
วายเมเถว ปุริโส ยาว อตฺถสฺส นิปฺปทา.
เป็นคนควรพยายามเรื่อยไป จนกว่าผลที่ปรารถนาจะสำเร็จ
อนิพฺพินฺทิยการิสฺส สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ.
ทำเรื่อยไป ไม่ท้อถอย ผลที่ประสงค์จะสำเร็จสมหมาย

สุนกฺขตตํ สุมงฺคลํ สุปภาตํ สุหุฏฺฐิตํ.
ประพฤติชอบเวลาใด เวลานั้นชื่อว่าฤกษ์ดี มงคลดี เช้าดี รุ่งอรุณดี
 
อโมฆํ ทิวสํ กยิรา อปฺเปน พหุเกน วา.
เวลาแต่ละวัน อย่าให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ จะน้อยหรือมาก ก็ให้ได้ประโยชน์อะไรบ้าง

 นิทฺทํ ตนฺทึ วิชิมฺหิตํ อรตึ ภตฺตสมฺมทํ วิริเยน นํ ปณาเมตฺวา อริยมคฺโค วิสุชฺฌติ.
อริยมรรคย่อมบริสุทธิ์ เมื่อขับไล่ความหลับ ความเกียจคร้าน ความบิดขี้เกียจ
ความไม่ยินดี และ ความเมาอาหารนั้นได้ด้วยความเพียร

อนาคตํ ปฏิกยิราถ กิจฺจํ มา มํ กิจฺจํ กิจฺจกาเล พฺยเธสิ.
เตรียมกิจสำหรับอนาคตให้พร้อมไว้ก่อน อย่าให้กิจนั้นบีบคั้นตัว เมื่อถึงเวลาต้องทำเฉพาะหน้า
อาสึเสเถว ปุริโส น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ ยถา อิจฺฉึ ตถา อหุ.
เป็นคนควรหวังเรื่อยไป บัณฑิตไม่ควรท้อแท้ เราเห็นประจักษ์มากับตนเอง   เราปรารถนาอย่างใด ก็ได้สมตามนั้น

 
อสเมกฺขิตกมฺมนฺตํ ตุริตาภินิปาตินํ ตานิ กมฺมานิ ตปฺเปนฺติ อุณฺหํ วชฺโฌหิตํ มุเข.
ผู้ที่ทำการงานลวก ๆ โดยมิได้พิจารณาใคร่ครวญให้ดี เอาแต่รีบร้อนพรวดพราดจะให้เสร็จ การงานเหล่านั้น
ก็จะก่อความเดือนร้อนให้ เหมือนตักอาหารที่ยังร้อนใส่ปาก
อชฺช สุเวติ ปุริโส สทตฺถํ นาวพุชฺฌติ โอวชฺชมาโน กุปฺปติ เสยฺยโส อติมญฺญติ.
คนที่ไม่รู้จักประโยชน์ตนว่า อะไรควรทำวันนี้ อะไรควรพรุ่งนี้
ใครตักเตือนก็โกรธ เย่อหยิ่ง ถือดีว่า ฉันเก่ง ฉันดี คนอย่างนี้ เป็นที่ชอบใจของกาฬกิณี
 
โกสชฺชํ ภยโต ทิสฺวา วิริยารมฺภญฺจ เขมโต อารทฺธวิริยา โหถ เอสา พุทฺธานุสาสนี.
ท่านทั้งหลายจงเห็นความเกียจคร้านว่าเป็นภัย และ เห็นการปรารภความเพียรว่าปลอดภัย
แล้วปรารภความเพียรเถิด นี้เป็นพุทธานุศาสนี
 
โย จาปิ สีเต อถวาปิ อุณฺเห วาตาตเป ฑํสสิรึสเป จ ขุทฺทํ ปิปาสํ อภิภุยฺย สพฺพํ รตฺตินฺทิวํ โย สตตํ นิยุตฺโต กาลาคตญฺจ น หาเปติ อตถํ โส เม มนาโป นิวิเส วตมฺหิ.
คนใดไม่ว่าจะหนาวหรือร้อน มีลมแดด เหลือบยุงก็ไม่หวั่น ทนหิวทนกระหายได้ทั้งนั้น ทำงานต่อเนื่องไปไม่ขาด ทั้งคืนวัน
สิ่งที่เป็นประโยชน์มาถึงตามกาล ก็ไม่ปล่อยให้สูญเสียไป คนนั้นย่อมเป็นที่ชอบใจของสิริโชค สิริโชคจะพักพึงอยู่กับเขา

 หิยฺโยติ หิยฺยติ โปโส ปเรติ ปริหายติ อนาคตํ เนตมตฺถีติ ญตฺวา อุปฺปนฺนจฺฉนฺทํ โก ปนุเทยฺย ธีโร.
มัวรำพึงถึงความหลัง ก็มีแต่จะหดหาย มัวหวังวันข้างหน้า ก็มีแต่จะละลาย อันใดยังไม่มาถึง อันนั้นก็ยังไม่มี
รู้อย่างนี้แล้ว เมื่อมีฉันทะเกิดขึ้น คนฉลาดที่ไหนจะปล่อยให้หายไปเปล่า

 


โย จีธ กมฺมํ กุรุเต ปมาย ถามพลํ อตฺตนิ สํวิทิตฺวา ชปฺเปน มนฺเตน สุภาสิเตน ปริกฺขวา โส วิปุลํ ชินาติ.
ผู้ใดทำการโดยรู้ประมาณ ทราบชัดถึงกำลังของตน แล้วคิดการเตรียมไว้รอบคอบ ทั้งโดยแบบแผนทางตำรา
ทั้งโดยการปรึกษาหารือ และโดยถ้อยคำที่ใช้พูดอย่างดี ผู้นั้นย่อมทำการสำเร็จ มีชัยอย่างไพบูลย์

เครดิต : writer.dek-d.com

แชร์ :

ความคิดเห็น

** โปรดแสดงความคิดเห็นอย่างมีวิจารณญาน